not that kinda girl

รอยยิ้มหวานที่ฉายขึ้นบนใบหน้าของเต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ ทำให้ตกหลุมรักเมื่อแรกพบได้ไม่ยาก แต่ก็ใช่ว่าเธอจะอยากเป็นสาวหวานเลี่ยนอย่างที่ทุกคนวาดภาพไว้

 
เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ กำลังนั่งเป่าลูกโป่งฟองสบู่อยู่หน้าแสงไฟในสตูดิโออย่างสนุกสนานขณะที่ผมกำลังก้าวเข้าสู่สตูดิโอ แม้ช่างภาพตะโกนบอกว่า “อยู่แล้ว” แต่เธอก็ยังขอเป่าเล่นต่ออีกสองสามที ก่อนจะหันมาทักทายผมด้วยการยกมือไหว้และขอตัวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดต่อไป สาวร่างเล็กคนนี้ดูบอบบางกว่าที่ผมคิดไว้ แต่พลังจากรอยยิ้มสดใสของเธอก็แผ่รัศมีออกมาไกลกว่าที่คิดไว้เช่นกัน

สาวหน้าใสกลับมาในชุดกระโปรงตัวใหม่ของ Sretsis ที่เธอชอบถึงขนาดขอให้ผู้จัดการส่วนตัวใช้สมาร์ทโฟนถ่ายรูปให้ ก่อนจะเดินเข้ามานั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าผมพร้อมฉีกยิ้มหวานราวกับเป็นสัญญาณเริ่มต้นสัมภาษณ์ “รู้ไหมว่าเต้ยเป็นพิธีกรรายการ Sister Day คนที่สามแล้วที่ได้ขึ้นปก NYLON” ผมบอก เธอทำท่านึกพลางเอ่ยว่า “พี่โอปอล์ ยิปโซ และก็เต้ย” ผมพยักหน้าตอบรับ “เต้ยโชคดีมากที่ได้มาทำรายการนี้ เพราะเราสนิทกันทุกคน คุยกันได้สบายใจ ไม่มีอะไรต้องนั่งเกร็ง” เธอพูด “อย่างยิปโซนี่กลายเป็นเพื่อนสนิทในวงการของเต้ยไปเลย เพราะจริงๆ เต้ยไม่ค่อยมีเพื่อนในวงการที่คุยได้ทุกเรื่อง แต่กับยิปโซ เราสามารถจูนกันได้ทุกเรื่อง ถ้าผ่าสมองออกมาน่าจะมีอะไรเหมือนกัน” ประโยคนี้ยิปโซ-รมิตา มหาพฤกษ์พงษ์ เคยพูดไว้เหมือนกันเป๊ะในบทสัมภาษณ์ใน NYLON ฉบับเดือนกันยายน “ส่วนพี่โอปอล์ก็เป็นไอดอลของเต้ยอยู่แล้ว ยิ่งได้ทำงานร่วมกันก็ยิ่งรู้สึกว่าคำว่า ‘ไอดอล’ มันใช่มาก ทั้งการใช้ชีวิตและแนวความคิดของเขา ใครมองว่าพี่เขาแรง แต่เต้ยว่าพี่โอปอล์ไม่แรงเลย อาจเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยกว่าเต้ยด้วยซ้ำ”

คงไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่าเต้ย-จรินทร์พร เป็นผู้หญิงที่ทุกคนตกหลุมรักได้ตั้งแต่รอยยิ้มแรกของเธอ แต่ก็ใช่ว่าเธอจะคลั่งไคล้กับตำแหน่ง ‘หวานใจ’ ที่ทุกคนมอง “เต้ยไม่ใช่ผู้หญิงหวานนน” เธอลากเสียงยาว “คิตตี้ สีชมพู ไม่ใช่เลย” ในทางตรงกันข้ามเต้ยเล่าว่าเธอเติบโตมากับการเล่นซนแบบเด็กผู้ชาย อย่างเช่นการเล่นเกมสร้างฐานสู้รบกับน้องชาย “คุณพ่อคุณแม่เต้ยเลี้ยงแบบให้เราเลือกชีวิตของตัวเองได้ ให้กล้าลองผิดลองถูกและเรียนรู้ด้วยตัวเอง”

แม้ภาพส่วนใหญ่ของเต้ยที่ปรากฏบนสื่อต่างๆ มักถูกประทับตราด้วยรอยยิ้มสดใส แต่เธอเผยว่าเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงบ้างในบางคราว “เต้ยเลือกใช้ชีวิตแบบ… เรียกว่าอะไรดีล่ะ” เธอนึกคำพูดไม่ออก ผมเลยตอบแทนว่า “อยู่ในวงของเรา” เธอพยักหน้าและพูดต่อว่า “ใช่ค่ะ เต้ยขอแค่มีวงเล็กๆ ก็พอใจแล้ว”

แต่ในพื้นที่วงกลมเล็กๆ ของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ก็ถูกตัดแบ่งยิบย่อยเป็นหลายส่วน “ในตัวเต้ยหนึ่งคน ถ้าผ่าออกมาจะพบว่ามีหลายแง่มุมมาก เต้ยชอบตะลุยโลก ไปเที่ยวที่ใหม่ๆ บางทีก็ชอบทำกิจกรรมโลดโผนอย่างปีนเขา ดำน้ำ เห็นบอบบางอย่างนี้เต้ยเที่ยวแบบลุยมาก แต่บางอารมณ์ก็แค่นอนมองเพดานเฉยๆ ไม่อยากทำอะไรก็มี” หลายสิ่งที่เธอพูดก็มีหลักฐานยืนยันจากภาพถ่ายสวยๆ ในอินสตาแกรมของเธอที่มีผู้ติดตามกว่า 807,000 คน “เต้ยช้อปปิ้งผ่านอินสตาแกรม” เธอกล่าวแบบยิ้มๆ “มันง่ายจริงๆ นะ คือแค่เราดูจากหน้าจอโทรศัพท์ ดูในโซเชียลเน็ตเวิร์ก สั่งซื้อ แล้วโอนเงิน เขาก็ส่งของมาให้ มันเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาไปไหน” และเมื่อถูกถามว่ามีคนเขียนฝากร้านในคอมเมนต์ไหม เธอสวนกลับทันทีว่า “เยอะมากกก ฝากตุ๊กตาด้วยนะคะ แว่นรุ่นเต้ยยูเอสเอ” เธอเล่าอย่างออกรส “แต่บางทีเต้ยก็แอบเป็นเหยื่อกดเข้าไปดูเสียเอง” เธอพูดจบก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะ

หลายวันต่อจากที่เราคุยกันจะเป็นวันเกิดครบรอบ 24 ปีของเธอ “เต้ยเชื่อว่าชีวิตคนมันมีเส้นทางกำหนดไว้แล้ว ถ้าเราไม่เลือกเป็นอย่างนั้นก็ต้องเป็นอย่างนี้” เธอเล่าว่าตอนเด็กๆ เธอมีความฝันหลายอย่าง ตั้งแต่คุณครู เจ้าของธุรกิจโรงแรม จนถึงแพทย์ผิวหนัง ก่อนจะเลือกเรียนสายวิทย์-สถาปัตย์ในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนบดินทรเดชา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เธอเริ่มแง้มประตูเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยงานถ่ายโฆษณา มิวสิกวิดีโอ และนิตยสาร “ตอนนั้นเต้ยอายุแค่ 15 คิดแค่ว่าอยากได้เงินไปซื้อของฟุ่มเฟือย จะได้ไม่ต้องขอแม่ ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ทำงานมาจนถึงจุดนี้”

แต่ราวกับชีวิตถูกกำหนดไว้ สุดท้ายเธอก็เลือกเรียนสาขาการแสดงและกำกับการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ “ก่อนหน้านั้นเต้ยไม่เคยสนใจเรื่องการแสดงเลยนะ มันเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก แล้วตอนแรกที่เข้าไปเรียนเต้ยเบื่อมาก เพราะมันใกล้เคียงกับสิ่งที่ทำอยู่” เธอพูดอย่างตรงไปตรงมา “แต่พอเรียนถึงปี 3 ปี 4 ก็เริ่มสนุกและได้เห็นอะไรมากขึ้นเกี่ยวกับการแสดง ที่สำคัญคือเต้ยสามารถนำมาใช้ในอาชีพได้เต็มๆ” โดยเฉพาะการสลัดลุคหวานแหววมารับบทที่หนักหน่วงขึ้นในภาพยนตร์เขย่าขวัญเรื่อง เคาท์ดาวน์ “เต้ยรู้ว่าตัวเองชอบการแสดงจริงๆ รู้ว่านี่คืออาชีพของเราจริงๆ จากหนังเรื่องนี้” เธอว่า “ก่อนหน้านั้นเต้ยได้บทที่ใกล้ตัวมาก แบบใสๆ แอบชอบคนโน้นคนนี้ เสียใจร้องไห้ แต่สำหรับ เคาท์ดาวน์ เราได้เรียนรู้การแสดงที่แตกต่างออกไป มันเหนื่อยและโหดมาก แต่มันเป็นอะไรที่สนุกที่สุดแล้ว”

Timeline จดหมาย ความทรงจำ คือภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเต้ยในรอบสองปีที่จะเข้าฉายกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ และเป็นสาเหตุที่ทำให้คิวงานของเธอแน่นกว่าปกติ “เต้ยรับบทจูน เด็กมหา’ลัยปีหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายในชีวิต รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อยู่เพื่ออะไร” เต้ยยอมรับว่าแม้จะเป็นบทที่ไม่ค่อยไกลตัวนัก แต่ความน่าสนใจเห็นจะอยู่ที่บุคคลสองคนที่มีส่วนร่วมในหนัง คนแรกคือผู้กำกับ อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร “เต้ยได้ยินชื่อพี่อุ๋ยมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว และเรื่อง The Letter จดหมายรัก ก็เป็นหนังไทยที่เต้ยชอบมาก และพอได้มาร่วมงานกันจริงๆ พี่อุ๋ยเป็นผู้กำกับที่เปิดกว้างมาก เหมือนเขาวางขันใบหนึ่งไว้ตรงกลางและทุกคนสามารถใส่ความคิดเห็นของตัวเองลงไปได้” ส่วนบุคคลที่สองคือพระเอกดาวรุ่ง เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข “เต้ยไม่เคยร่วมงานกับน้องเจมส์เลย เคยได้ยินชื่อคุณชายพุฒิภัทรที่ทุกคนกรี๊ด แต่เต้ยก็ไม่เคยดู” เธอพูดถึงพระเอกรุ่นน้องว่า “น้องเป็นอีกคนที่เต้ยร่วมงานด้วยแล้วสบายใจ น้องเป็นคนอัธยาศัยดี และตัวสูงมาก” เต้ยพูดแบบขำๆ ก่อนเสริมว่า “คุณแม่เต้ยที่ปกติไม่ดูละครยังกรี๊ด” ผมถามว่าแล้วพอแม่รู้ว่าเราจะได้เล่นหนังกับเจมส์ จิ ล่ะ “ตามมาที่กองถ่ายด้วยเลยค่ะ” เต้ยหัวเราะร่า

สาวหน้าหวานคนนี้เผยว่าชอบฟังเพลงอัลเทอร์เนทีฟร็อกฟังสบายอย่าง โคลด์เพลย์ ซึ่งแม้ไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียงกับเพลง “Disco 2000” ของวงพัลพ์ที่เพิ่งเปิดคลอการถ่ายแฟชั่นในสตูดิโอก่อนหน้านี้ บทสนทนาดำเนินมาจนถึงเรื่องหัวใจของเธอ “เป็นการคบที่นานที่สุดแล้ว” เต้ยพูดถึงความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม อเล็กซ์ เรนเดลล์ ที่คบหากันมานานสองปี “จริงๆ ก็เคยคบนานประมาณนี้นะ แต่ตอนนั้นเต้ยมองความรักแบบเด็กๆ แต่ตอนนี้เราโตขึ้น เรียนจบ ทำงาน เป็นผู้ใหญ่ เรามองความรักอีกแบบหนึ่ง เมื่อก่อนเต้ยจริงจังกับความรักมาก นิดๆ หน่อยๆ ก็เสียใจ แต่เดี๋ยวนี้เต้ยกับอเล็กซ์คบกันแบบสบายๆ เหมือนเพื่อนเล่นแง๊งๆๆ” เต้ยกล่าวด้วยน้ำเสียงซุกซน “พอเราเครียดจากงาน แล้วได้มาเจอกันมันก็สบายใจ” หรือพูดง่ายๆ ว่าสาวคนนี้แพ้ผู้ชายขี้เล่น “เต้ยกับอเล็กซ์จะต่างกัน เขาเป็นคนขี้เล่น ไม่เคร่งครัดกับอะไร สำหรับเต้ยต้องเป๊ะ 1 2 3 4 5 แต่อเล็กซ์อาจจะ 1 แล้วไป 4 แล้วข้ามไป 6 เลยก็ได้ พออยู่ด้วยกันมันก็เลยบาลานซ์ หาตรงกลางระหว่างกันได้ เขาช่วยให้เต้ยไม่ตึงมาก เต้ยก็ช่วยให้เขาเป็นการเป็นงานขึ้น” เธอพูดพร้อมรอยยิ้มเปี่ยมสุข

เมื่อผมถามว่า “ทำไมเต้ยถึงดูเป็นผู้หญิงที่มีความสุขอยู่ตลอดเวลา” เต้ยยิ้มและตอบแบบเขินๆ ว่า “มันอาจจะเป็นสิ่งที่คนรอบข้างมองเข้ามานะ จริงๆ เต้ยก็มีปัญหาบ้างแหละ แต่เต้ยว่าถ้าเราเข้าใจปัญหาและยอมรับได้ มันก็มีทางออก” เต้ยพูดด้วยน้ำเสียงที่มองโลกในแง่บวก “สุดท้ายปัญหาทุกอย่างทำให้เราได้เรียนรู้และโตขึ้น ต้องขอบคุณทุกปัญหาด้วยซ้ำที่ช่วยให้เราผ่านอะไรไปได้”

เรื่อง: ณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์