good day sir

“ยังไม่ตื่นดีครับ” อัทธ์-อังค์กูณฑ์ ธนาทรัพย์เจริญ หนุ่มนักร้องนำเอ่ยปากเป็นประโยคแรกหลังจากกล่าวสวัสดี เรานัดกับสี่หนุ่มวงเยสเซอร์เดย์ส (Yes’sir Days) ในตอนสายของวันพุธที่พาร์กล็อบบี้ชั้น 9 ของโรงแรมโซฟิเทล โซ แบงคอก แต่อัทธ์ก็ยืนยันว่า “คุยได้เลยครับ”

เช่นเดียวกับวงดนตรีชายล้วนวงอื่นๆ ที่สมาชิกทั้ง 4 คนเริ่มต้นจากมิตรภาพระหว่างเพื่อน อย่างในกรณีของเยสเซอร์เดย์สนั้น อัทธ์และอาร์ท-วสุรัตน์ พานิช เป็นเพื่อนที่เล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นม.1 กระทั่งแยกย้ายกันไปเรียนคนละมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความโหยหาในเสียงดนตรีก็ทำให้อัทธ์ชวนอาร์ทกลับมาฟอร์มวงเล่นดนตรีด้วยกันอีกครั้ง โดยชักชวนบอย-อมร ตันติโชติมัย มือกีตาร์ และปลั๊ก-วีรยุทธ วัณโณ มือเบส เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกวง

“ตอนนั้นเราก็ไปเล่นกลางคืนแล้วก็เริ่มทำเดโมกัน” อัทธ์ หนุ่มหน้าหนวดที่หลายคนคุ้นหน้าจากโฆษณาและมิวสิกวิดีโอเปิดฉากเล่าเรื่องย้อนกลับไปเมื่อเกือบสองปีก่อน “ตอนนั้นเราใช้ชื่อวงว่า Rabbit White Egg แปลตรงตัวว่ากระต่ายไข่ขาว เพราะตอนนั้นคิดชื่อวงไม่ออกและหันไปเห็นกระต่ายชื่อไข่ขาวที่เพื่อนเลี้ยงไว้” ทั้งสามหนุ่มขำเบาๆ “แต่ใช้ชื่อนี้ไปสักพักก็รู้สึกว่ามันหน่อมแน้มไปหน่อย เลยเปลี่ยนชื่อวงเป็น Always Morning เพราะเราเล่นกลางคืนและกลับเช้าตลอด” อัทธ์พูดพลางหัวเราะ แต่ไม่นานนักสี่หนุ่มก็เปลี่ยนชื่อเป็น Yes’sir Days “เราหยิบคำว่า Yesterday มาผนวกกับคำว่า Yes Sir” อาร์ทพูดพร้อมทำท่าตะเบ๊ะ “ทุกคนชอบชื่อนี้ แล้วใช้ได้แป๊บเดียวก็ได้ออกซิงเกิลเลย”

ซิงเกิลแรกที่อาร์ทพูดถึงคือ “วน” ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงจากเดโมของพวกเขาที่ทำร่วมกับโปรดิวเซอร์ โต๋-ธีระปริญญ์ รัตนบุตร และเข้าหูฟองเบียร์-ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม ผู้บริหารค่าย WE Records “ตอนนั้นเราทำเดโมไปเสนอหลายที่ แต่สุดท้ายพี่ฟองเบียร์ชอบเพลงของเราและมาดูเราเล่นสด” อัทธ์พูดถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เยสเซอร์เดย์ส กลายเป็นศิลปินในสังกัดอย่างทุกวันนี้โดยมีซิงเกิลดังอย่างเช่น “เจ็บไปรักไป” “แผลที่ไม่มีวันหาย” รวมทั้ง “อยากให้เธอได้ยินหัวใจ” ที่ร่วมร้องกับบงกช เจริญธรรม ซึ่งถูกใช้เป็นเพลงประกอบละคร พรหรหมอลเวง ทางช่อง 3 “โชคดีที่มีคนนำเพลงของพวกเราไปประกอบละคร มันช่วยโปรโมทได้ดีมาก” อัทธ์เล่าต่อ “พวกเรายังไม่มีอัลบั้มเต็ม แต่ช่องทางอย่าง YouTube ก็ช่วยเราได้เยอะ เพราะทุกวันนี้คนชอบดูมิวสิกวิดีโอหรือฟังเพลงทางเน็ตมากกว่าทางช่องเพลงต่างๆ” เห็นได้ชัดจากยอดวิวที่สูงเกิน 10 ล้านวิวแทบทุกวิดีโอ ยังไม่นับแฟนเพจบนเฟซบุ๊กที่ทะลุ 143,000 คนแล้ว “ผมไม่คิดนะว่าถ้ามีคนดูทาง YouTube แล้วเขาจะไม่ซื้อเพลงเรา ถ้าเขาชอบจริงๆ ก็คงซื้อ แต่สุดท้ายแล้วเราไม่ซีเรียสกับเรื่องรายได้ แค่มีคนดูมากขนาดนี้ก็ดีแล้ว” พวกเขาเพิ่งปล่อยซิงเกิลใหม่เป็นเพลงสนุกๆ ชื่อ “มนุษย์ล่องหน” ที่ฮิตติดลมบนไม่แพ้เพลงก่อนๆ

สี่หนุ่มที่ชอบเล่นเพลงของวงซิลลี่ฟูลส์เมื่อครั้งยังตระเวนเล่นกลางคืนยกย่องไลน์กีตาร์ของบอยที่ช่วยให้ดนตรีป๊อปร็อกของเยสเซอร์เดย์สมีความแปลกใหม่ขึ้น บวกกับจังหวะของกลองและเบสที่ดูทันสมัย มีกลิ่นอาร์แอนด์บี “เราจะช่วยกันหา reference มาในห้องซ้อม แต่ละคนก็โชว์สิ่งที่เตรียมมา แล้วช่วยกันเลือกมารวมให้ออกมากลมกล่อมที่สุด” อัทธ์เล่าถึงการทำงานในห้องซ้อม “ส่วนขั้นตอนการทำเพลงจะแตกต่างกันออกไป บางเพลงพวกเราขึ้นทำนอง เมโลดี้ แล้วให้พี่โต๋ช่วยตบ จากนั้นก็ให้พี่เบียร์ใส่เนื้อเพลง บางเพลงพี่โต๋ก็ขึ้นทำนองให้พวกเราช่วยเกลา แล้วพี่เบียร์ก็ใส่เนื้อเพลง”

ด้วยดีกรีอดีตหนุ่มคลีโอและนายแบบโฆษณาของอัทธ์ จึงไม่แปลกใจว่าหนุ่มนักร้องนำคนนี้จะกลายเป็นขวัญใจสาวๆ โดยเฉพาะในยามออกทัวร์คอนเสิร์ต แต่เมื่อถามว่าใครเสน่ห์แรงที่สุดในวง ผู้ที่ได้รับเสียงโหวตมากที่สุดคือ “ปลั๊กครับ” อาร์ทบอก “สาวๆ จะกรี๊ดปลั๊กครับ อัทธ์ก็เยอะ แต่ไม่เท่าปลั๊ก เขาจะมีแรงดึงดูดมากกว่า” ปลั๊กรีบเถียงว่า “ดึงดูดผู้ชายซะมากกว่า” เขาพูดจบทุกคนก็หัวเราะ การออกทัวร์บ่อยก็มักมาพร้อมกับประสบการณ์แปลกๆ อย่างที่อัทธ์เล่าว่า “มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมไม่มีวันลืมเลย เราไปเล่นที่งานกาชาดจังหวัดหนึ่ง พอเล่นเสร็จกำลังจะขึ้นรถตู้ มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งตามมาเหมือนจะขอถ่ายรูป เขามายืนเคาะประตูรถตู้และทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ผมรีบเปิดกระจกหน้าต่างถามว่า ‘จะถ่ายรูปเหรอครับ’ น้องตอบว่า ‘ค่ะ พี่ใช่วงใบพัดหรือเปล่าคะ’ ผมก็เอ๋อ รีบตอบว่า ‘ไม่ใช่ครับ’ แล้วปิดกระจก” ทุกคนหัวเราะร่วน อาร์ทยังปล่อยมุกต่อว่า “จากนั้นเราก็ถอยรถชนน้องเลยครับ”

แต่นั่นก็ไม่เรียกเสียงฮารอบวงได้เท่ากับสิ่งที่บอยเล่าปิดท้ายว่า “มีคอมเมนต์หนึ่งใน YouTube เขียนว่า ‘ถ้าได้พี่อัทธ์สักที แล้วหนูจะตั้งใจเรียนค่ะ’” ใครเขียนไว้ โปรดแสดงตัวด่วน

NYLON TV THAILAND
ชมวิดีโอเบื้องหลัง

เรื่อง: ณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์

ภาพ: ไชยวัฒน์ ไชยโชติ

สถานที่: sofitel so bangkok