thank you for the music

 

 

โคเชลล่ามิวสิกแอนด์อาร์ตเฟสติวัล (Coachella Music & Art Festival) หรือเรียกสั้นๆว่า ‘โคเชลล่า’ เทศกาลดนตรีที่รวบรวมศิลปินอินดี้ทุกสาขาแนวเพลงจากทุกสมัย (ที่ยังมีชีวิตและทำวงอยู่) เกือบสองร้อยวงมาเล่นโชว์ตลอดสามวันสามคืนในสองสัปดาห์ถัดกัน (Weekend 1 & Weekend 2) ที่ไลน์อัพเหมือนกันเป๊ะ จัดขึ้นที่ Empire Polo Club เมืองอินดิโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย อันเปรียบเสมือนสวรรค์น้อยๆ ของผู้รักดนตรีจากทั่วโลกที่มารวมตัวกันฟังดนตรีและปาร์ตี้ตลอดสามวันแบบนันสต๊อป ชื่อเสียงของงานนี้ดังขึ้นทุกปี จากทั้งไลน์อัพวงดังระดับโลกและการถ่ายทอดสดผ่าน ยูทูบให้คนทั่วโลกได้ชมกัน นับเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ ให้เด็กแนวแถบประเทศโลกที่สามเกิดความตั้งใจว่าในชีวิตนี้ ก่อนตาย ต้องไปเหยียบพื้นดินตรงงานนี้ให้ได้

 

ก่อนจะไปงานเทศกาลดนตรีโคเชลล่าอย่างแรกเลยคือต้องซื้อบัตร และโคเชลล่าก็ถือเป็นเทศกาลดนตรีแรกในโลกที่เข้าใจหัวอกของฮิปสเตอร์เงินผ่อนทั้งหลาย ด้วยการเปิดให้จองและผ่อนบัตรเข้างานก่อนล่วงหน้า 10 เดือนหรือถ้าใครมีกำลังทรัพย์มากก็สามารถซื้อบัตรราคาเต็มได้ในราคาเท่ากัน สำหรับพวกเรานั้น แน่นอนอยู่แล้ว ต้องเลือกการผ่อนบัตร (ดอกเบี้ย 0% อีกต่างหาก) ระหว่างนั้นก็ทำงานเก็บเงินเตรียมตัวซื้อตั๋วเครื่องบิน ขอวีซ่า และหาที่พักไปพลางๆ เมื่อครบ 10 เดือนที่เราจ่ายเงินครบ กล่องของขวัญพร้อมสายรัดข้อมือเข้างานโคเชลล่าก็ถูกส่งตรงมาถึงบ้านเรา และแล้วการผจญภัยของจริงก็เริ่มต้นขึ้น

 

“โคเชลล่าหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ต้องไปก่อนตาย” ประโยคนี้คือความจริงสำหรับผู้หลงใหลในเสียงดนตรีและรักการชมคอนเสิร์ตทุกคน ในฤดูใบไม้ผลิของเดือนเมษายนปีก่อน ใจกลางทะเลทรายของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เด็กแนวของไทยกลุ่มหนึ่งได้พาตัวเองไปถึงงานโคเชลล่าเพื่อบรรลุความฝันตนเอง

 

 

DSCF2351

 

living coachella

ที่พักสำหรับคนไปงานนี้มีให้เลือกหลากหลายเพราะตัวเมืองอินดิโอ รวมถึงเมืองรอบข้างอย่างปาล์มสปริงส์ (Palm Springs) และปาล์มดีเซิร์ต (Palm Desert) ทั้งหมดเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศชื่อดังในแถบลอสแองเจลิส เพราะฉะนั้นก็มีทั้งบ้านตากอากาศ โรงแรม คอนโด เกสต์เฮาส์ ฯลฯ ให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ ทั้งหมดดูสวยงามแต่ราคานั้นเหยียบหมื่นบาทต่อคืน เอาล่ะสิ มากันก็ไม่เยอะจะหารค่าเช่าบ้านก็คงไม่มีเงินพอจะใช้ชีวิตในงาน เหล่าเด็กแนวไทยเลยแอบเครียดเรื่องที่พัก แต่ในที่สุดเราก็มาเจอทางออกที่อยู่ในโลกออนไลน์นี่เอง ด้วยการเข้าเว็บบอร์ดของ Coachella.com แหล่งพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลทุกเรื่องเกี่ยวกับโคเชลล่า แล้วเราก็เจอหนุ่มคนหนึ่งประกาศให้เช่าพื้นที่สวนหลังบ้านให้คนที่ไปโคเชลล่ามากางเต๊นท์นอน ตกแค่คนละ 600 บาทต่อคืน (แต่ต้องขนเต๊นท์ไปกางเอง) แถมบ้านเขายังห่างจากที่จัดงานแค่สามกิโลอีกด้วย โอ๊ย ดีใจกันมาก ส่งแมสเซจคุยไปคุยมา แล้วเราก็มีที่ซุกหัวนอนกันจนได้

 

 

coachella day / music

ก้าวขาลงจากรถชัตเทิลบัสที่มาส่งพวกเราถึงหน้างาน รู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าไปอีกโลกหนึ่งที่เต็มไปด้วยหนุ่มสาวแต่งตัวสีสันฉูดฉาดรวมกลุ่มกันอยู่กลางสนามหญ้าสีเขียวตัดกับท้องฟ้าแจ่มใส เวทีคอนเสิร์ตทั้ง 5 เวที รวมทั้งจุดเครื่องเล่น โซนขายของ และซุ้มขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาปักหลักรอต้อนรับพวกเรากันแบบไม่รอช้า พวกเราผ่านด่านตรวจ (พร้อมแสงโสมที่แอบพกมาในกระเป๋า) เข้างานก็พุ่งตรงไปที่เวทีคอนเสิร์ตทันที ไลน์อัพโคเชลล่าปี 2012 ที่พวกเราไปถือว่าเต็มไปด้วยความหลากหลายและน่าสนใจ อาทิ Radiohead, The Black Keys, Arctic Monkeys, The Rapture, M83, Kasabian, Pulp, The Hives, Mike Snow, SBTRK, Florence & The Machine, Calvin Harris, Dr.Dre & Snoop Dogg และอีกมากมาย ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่แค่ไล่ตามดูแต่ละวงในแต่ละเวที ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนก็ทำเอาขาลากร่างแตก แต่เพื่อวงดนตรีที่เรารักก็ทำให้ฮึดสู้เดินเต้นและตะโกนร้องเพลงอยู่หน้าเวทีร่วมกับเหล่าแฟนเพลงจากทั่วโลก แน่นอนว่าคนที่มางานโคเชลล่าจะเน้นความสนุกสุดเหวี่ยง ปาร์ตี้ เมา เต้น และร้องเพลงไปกับวงที่ตัวเองชอบ ทำให้แต่ละวงดนตรีที่มาเล่นในงานเอนเตอร์เทนคนดูอย่างถึงขีดสุดและได้รับการตอบรับจากคนดูเป็นอย่างดี ในส่วนของระบบจัดการของงานก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่พวกเราประทับใจเช่นกัน เราแทบไม่ได้ต่อแถวเพื่อซื้ออาหารและเครื่องดื่มนาน หรือแม้กระทั่งห้องน้ำก็มีจำนวนมากเพียงพอ อีกทั้งยังมีคนทำความสะอาดทุก 15 นาที และมีคนคอยเก็บขยะตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้สำคัญมากสำหรับ งานเทศกาลดนตรีที่ดี ทุกอย่างเอื้อให้คนได้ดูคอนเสิร์ตและปาร์ตี้กันได้อย่างเต็มที่ มองไปทางไหนก็มีแต่คนปล่อยอารมณ์สนุก เมามัวไปกับบรรยากาศครื้นเครง ทุกคนเป็นมิตรและพูดคุยกัน ทำให้ได้เพื่อนใหม่จากงานนี้หลายคน

 

 

coachella night / party

หลังการชมตะวันตกดินในจุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนั่นคือกลางสนามโปโลของโคเชลล่า ปาร์ตี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้นตามเวทีต่างๆ ศิลปินและดีเจเริ่มขึ้นโชว์ อากาศเริ่มเย็นลงเพราะอุณหภูมิทะเลทรายเวลากลางวันจะต่างกับกลางคืนอย่างลิบลับเกือบ 20 องศาเซลเซียส ควรเตรียมเสื้อกันหนาวพกติดไปด้วย เพราะไม่เพียงแต่อากาศจะหนาวยังมีลมทะเลทรายพัดกระหน่ำอีกต่างหาก ถึงกระนั้นเหล่าปาร์ตี้แอนิมอลอย่างพวกเราก็ยังมุ่งหน้าไปดูวงที่ตัวเองรักตามเวทีต่างๆ ต่อไปอย่างไม่ยี่หระ ยิ่งมืดแสงสีเสียงและโปรดักชั่นของงานก็ยิ่งโดดเด่น กลบความหนาวเหน็บและความเหน็ดเหนื่อยจากการดูคอนเสิร์ตตลอดทั้งวันได้อย่างอยู่หมัด พลังจากการแสดงสดของวงดนตรีนี่แหละที่ทำให้พวกเราสู้ต่อไปจนจบวงสุดท้ายประมาณตีหนึ่ง ทุกคนจึงแยกย้ายกันกลับที่พัก ทว่าปาร์ตี้ตามเต๊นท์ที่พักในงานยังมีอยู่ต่อไป ใครยังไหวเชิญเมาต่อได้ยันเช้าจ้ะ

 

 

coachella fashion / art
เทศกาลแห่งศิลปะและแฟชั่นคืออีกหนึ่งเอกลักษณ์ของโคเชลล่าที่ทุกครั้งจะมีศิลปินมาสร้างสรรค์ผลงานแบบ Installation เก๋ๆ ให้ได้รับชม และคนมางานโคเชลล่าก็เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการแต่งตัว เรียกว่าแต่ละชุดที่แต่งมาประชันกันนั้นคิดกันมาก่อนอย่างแน่นอน มีทั้งแบบสวย หล่อ เท่ ยันตลกบ้าหลุดโลก ให้เราได้เลือกชมกันอย่างเพลิดเพลิน

 

 
จบสามวันสามคืนของเทศกาลดนตรีในฝัน เต็มอิ่มไปกับทุกวงที่เราอยากดู ทั้งบรรยากาศและผู้คนดนตรีที่คุ้มค่ากับการมาเยือนครั้งนี้จริงๆ ไม่เสียแรงที่เราอุตสาหะเก็บเงินฟันฝ่ามาถึงโคเชลล่าในปีนี้ เราดีใจที่ทำหนึ่งในความฝันได้สำเร็จ ความสุขที่ได้รับจากเสรีภาพที่ดนตรีหยิบยื่นให้ทุกคนถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าและไม่มีอะไรเทียบเคียงได้ นี่แหละคือเสน่ห์ของมิวสิกเฟสติวัลที่คนรักดนตรีทุกคนต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง… สักครั้งก่อนตาย

 

เรื่องและภาพ: lady soma

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply