Amazing Tales From Olympic เปิดเรื่องราวสุดแปลกจากกีฬาโอลิมปิก
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกเริ่มต้นในสมัยกรีกโบราณโน้นเลยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่ากีฬาที่มีการจัดการแข่งขันที่ยาวนานขนาดนี้ จะต้องมีเรื่องราวที่ประหลาดเกิดขึ้น และนี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ปี 2012 ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลอนดอนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก หรือครั้งที่ 2 หากแต่ว่าเคยจัดมาแล้วถึง 3 ครั้ง….ความจริงแล้วลอนดอนเป็นเมืองแรกๆ ที่เคยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ถึงสามครั้ง นอกจากนี้ในการบันทึกยังบอกอีกว่าลอนดอนยังได้รับเกียรติเจ้าภาพจัดการแข่งขัน พาราลิมปิก (Paralympic Games) กีฬาของผู้บกพร่องทางร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นในปี 1948
Dimitrios Loundras นักกีฬายิมนาสติกชาวกรีกที่ร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 1896 แถมยังสามารถคว้าเหรียญทองแดงมาครอบครองอีกด้วย แต่ที่พีคสุดๆ ก็คือเขาอายุเพียง 10 ปีเท่านั้น! ซึ่งพอเขาได้รางวัลก็เป็นการสร้างแรงผลักดันให้เด็กๆ หลายคนในตอนนั้น และต่อมา Dimitrios ก็กลายเป็นพลเรือเอกในกองทัพเรือกรีก บางทีเขาอาจจะจัดเอาเหรียญของเขาออกไปในทะเลเพื่อความโชคดีก็ได้นะ
บริษัทรองเท้าวิ่งไม่มีทางได้เงินจากเขา! นั้นก็เพราะ Abebe Bikila นักกีฬาชาวเอธิโอเปียที่วิ่งมาราธอนด้วยเท้าเปล่า และเอาชนะคว้าเหรียญทองมาครองอีกด้วย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 1960 ที่โรมเป็นเจ้าภาพ แสดงให้เห็นเลยว่ารองเท้าแพงแค่ไหนก็ไม่สำคัญ เพียงแค่มีความพยายามเท่านั้น
พูดถึงนักกีฬาที่อายุน้อยทีสุดไปแล้ว ก็ต้องคงต้องพูดถึงนักกีฬาที่อายุมากที่สุด… เขาคือ Oscar Swahn นักกีฬายิงปืนที่คว้าเหรียญทองปี 1908 ด้วยวัย 60 ปี! แค่นั้นยังไม่พอ Oscar ยังเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกต่ออีกถึง 2 ครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เขาเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกที่ Antwerp Games ประเทศเบลเยี่ยม ก็ยังสามารถคว้าเหรียญเงินไปด้วยวัย 72 ปี บอกเลยว่าไม่ใช่แค่เพียงอายุที่เพิ่มขึ้น ความสามารถด้านการยิงปืนของเขาก็มากตามอายุไปด้วยนะเนี่ย
นักกีฬาชาวอเมริกา James Connolly ถือเป็นผู้ชนะคนแรกในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ปี 1896 หลังจากหยุดการแข่งขันโอลิมปิกถึง 1,500 ปี !โดยเขาสามารถเอาชนะในกีฬาเขย่ง ก้าว กระโดด (Triple Jump) ซึ่งตอนนั้นรางวัลชนะเลิศไม่ใช่เหรียญทอง แต่เป็นเหรียญเงินกับใบมะกอกแทน คูลๆ ไปเนอะ
โอลิมปิกเบอร์ลิน ปี 1936 (หรือที่รู้จักกันในนาม The ‘Nazi’ Olympics) เป็นครั้งแรกที่การแข่งขันถูกถ่ายทอดทางโทรทัศน์! โดยวันนั้นเป็นการถ่ายทอดสดบนจอขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าเห็นไปถึงเหงื่อ และรุขุมขนนักกีฬาที่ถูกจับภาพจากกล้องมาอีกที ถึงแม้จะเป็นเพียงภาพขาวดำก็เถอะ ซึ่งการถ่ายทอดสดการแข่งขันโอลิมปิกทั่วโลกเกิดขึ้นในปี 1960
เหรียญทองที่มีไว้ให้ผู้ชนะเนี่ย จริงๆ แล้วไม่ได้เข้าใกล้คำว่า’ทองคำ’เลยด้วยซ้ำ เพราะมันทำมาจากเหรียญเงินชุบสีทองอีกทีหนึ่งต่างหาก แต่ก็สำคัญไปกว่าความทุ่มเท และความพยายามของเหล่านักกีฬาที่แข่งขันจนชนะ แค่ไม่ใช่ทองคำนะไม่สำคัญหรอก จริงมั้ย
พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ และสวยมาก แน่นอนว่าเมืองที่เป็นเจ้าภาพ เขาต้องลงทุนกันอย่างมหาศาล เพื่อเนรมิตความยิ่งใหญ่ของพิธีการเหล่านี้ให้ออกมาน่าตื่นตาตื่นใจกับพวกเราคนดู ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่มีเลย พิธีเปิดเนี่ย เพิ่งจะมีอย่างเป็นทางการตอนปี 1908 และเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าภาพ 3 ครั้งอย่างลอนดอนเอง
แม้ว่ามหกรรมกีฬาโอลิมปิกจะเป็นอะไรที่ทุกคนเฝ้ารอ และยิ่งใหญ่ระดับโลก แต่ก็เคยทุกยกเลิกมาแล้วถึง 3 ครั้ง ! โดยมีสาเหตุหลักมาจากสงคราม ยกเลิกการจัดการแข่งขันโอลิมปิกปี 1916 ที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพราะสงครามโลกครั้งที่ 1 และกาแข่งขันในปี 1940 ที่เมืองเฮลซิงกิ ประเทศเบลเยี่ยม เช่นเดียวกันการแข่งขันที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี 1944 เหตุเพราะสงครามโลกครั้ง 2 นั่นเอง เมื่อคนต้องสู้เพื่อความอยู่รอด มหกรรมกีฬาระดับโลกจึงมีความหมายน้อยลง
ปิดท้ายด้วยเรื่องติดเรตที่สุดของโอลิมปิกเลยก็ว่าได้ นั่นคือ ในสมัยกรีกโบราณเนี่ย นักกีฬาเขาไม่ใส่อะไรเลยนะสิ! แถมยังทาตัวด้วยน้ำมันเพื่อให้ดูดี และเหมือนเป็นเครื่องบรรณาการให้กับพระเจ้า แต่อย่าเพิ่งคิดลึกกันไป เพราะนักกีฬาโอลิมปิกสมัยโบราณเขาให้แค่ผู้ชายเท่านั้นที่เข้าแข่งขันได้
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!