across blue water

ชาวมัลดิเวียนบอกเราว่าเรื่องร่ำลือที่ ‘มัลดีฟส์จะจมหายไปจากแผนที่โลกในอีกไม่นาน’ แท้จริงแล้วเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ มันเป็นแผนการตลาดเรียกนักท่องเที่ยว (อันชาญฉลาด) ของประเทศมัลดีฟส์ต่างหาก… แต่ถึงรู้ว่าโดนหลอก ก็เต็มใจให้หลอก

 

 

ช่วงเวลาที่ฉันกำลังดำน้ำเบิ่งตามองฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปตามปะการังใต้ท้องทะเลมัลดีฟส์ นาทีนั้นช่างเงียบสงบ ได้ยินแค่เสียงตีนกบโบกกระทบผิวน้ำ เมื่อเงยหน้าขึ้นเหนือผิวน้ำและพบว่าตัวเองลอยอยู่กลางผืนทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยส์ใต้ท้องฟ้าสีครามสดใส พลันคิดว่าถ้านี่คือจุดเล็กๆ ที่แทบมองไม่เห็นบนแผนที่โลก ใต้ประเทศอินเดียที่คุณครูเคยสอนเราในวิชาภูมิศาสตร์ มนุษย์เราก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กกระจิ๋วหลิวบนโลกใบนี้ (ใช่ ฉันยอมรับว่ากำลังอินกับหนังเรื่อง Gravity)

 

 

แม้เมืองไทยจะมีเกาะแก่งกลางทะเลที่สวยติดอันดับโลกอยู่หลายแห่ง แต่ถ้าลองถามถึงสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของหลายคน รับรองต้องมีมัลดีฟส์ติดอันดับอยู่เกินกว่าครึ่ง คงไม่ต้องสาธยายให้เปลืองบรรทัดว่าหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้สวยจับจิตแค่ไหน เอาเป็นว่าฉันไม่ถามอะไรสักคำหลังจากที่ Club Med เชิญไปเยือนรีสอร์ตที่ Kani ในมัลดีฟส์ สิ่งเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวคือ ‘ได้เวลาซื้อชุดว่ายน้ำตัวใหม่แล้วสินะ’

 

 

มัลดีฟส์เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคมที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ปราศจากฝน อากาศไม่ร้อนจนเกินไป ทะเลสวยสีฟ้าเทอร์ควอยซ์และน้ำนิ่งใสแจ๋วราวกับแผ่นกระจก (แต่ราคาห้องพักและตั๋วเครื่องบินก็อาจขยับตัวสูงขึ้นเช่นกัน แนะนำว่าให้พ้นช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ รอให้พี่ๆ ฝรั่งจากฝั่งยุโรปกลับบ้านไปก่อนราคาจะถูกลงเล็กน้อย) ถ้าถามว่า ‘มามัลดีฟส์แล้วทำอะไร’ ขอตอบตรงๆ ว่า ‘ไม่มีอะไรให้ทำ นอกจากดื่มด่ำกับท้องทะเลและธรรมชาติให้เต็มที่’ มันคือช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง และนี่เป็นเหตุผลที่มัลดีฟส์เป็นแหล่งฮันนีมูนยอดฮิตของคู่รักข้าวใหม่ปลามัน จึงขอประกาศตรงนี้ว่าถ้าใครคิดจะมาเที่ยวสถานที่สุดโรแมนติกแห่งนี้คนเดียว (คงไม่มีมั้ง) หรือแบบเป็นล้ออะไหล่ (fiifth wheel) ของคู่อื่นเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ เพราะหันไปทางไหนก็มีแต่คู่รักเดินจูงมือกันริมหาดหรือถ่ายรูปกระหนุงกระหนิงตามคอนเซ็ปต์หาดทราย สายลม สองเรา หนุ่มสาวไร้คู่ทั้งหลายควรหาทางออกด้วยการมากับก๊วนเพื่อนสนิทที่หารออกมาแล้วไม่เหลือเศษเลขคี่จะดีที่สุด (ฉันท่องไว้ตลอดทริปว่า ‘มาทำงาน มาทำงาน’)

 

 

ข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงมัลดีฟส์ทั้งที อย่าได้กลัวแดดกลัวดำเก็บตัวอุดอู้อยู่ในห้องแอร์ เสียของ! ขอเชิญออกไปดำผุดดำว่ายในน้ำทะเลตั้งแต่บ่ายสาม เพราะช่วงนี้น้ำใสแจ๋วและอุณหภูมิกำลังพอดี เล่นน้ำอยู่ดีๆ ก็มีปลามาว่ายเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ ชนิดไม่เกรงกลัวผู้คน หรือไม่ก็นอนอ่านหนังสือหรือจิบดริงค์เย็นๆ ตากลมทะเลอยู่ที่เดย์เบดริมหาดดีกว่า ยิ่งพักที่ Club Med ยิ่งดื่มได้แบบไม่อั้นอยู่แล้ว ใครที่เป็นขาลุยหน่อยต้องลองพายเรือคายักหรือเล่นเรือใบที่ถึงจะเล่นผิดเล่นถูกยังไงก็รับรองว่าสนุก หรือหากอยากเล่นจริงจังก็มี G.O. (Gentle Organizer) คอยแนะนำและดูแล

 

 

อย่างที่เกริ่นไว้ว่าการมาเที่ยวมัลดีฟส์ต่างจากสถานที่อื่นๆ ที่คุณแค่เช็กอินเข้าห้องพักแล้วก็ไปเดินทางท่องเที่ยวได้เอง แต่สำหรับที่นี่คุณต้องกิน นอน และทำกิจกรรมต่างๆ บนเกาะเกือบทั้งทริป เมื่อเป็นเช่นนี้ Club Med Kani Maldives จึงเป็นตัวเลือกที่ดีเลิศ ด้วยคอนเซ็ปต์เฉพาะตัวแบบ All-Inclusive ที่ผู้เข้าพักจ่ายครั้งเดียวเพื่อแลกกับวันหยุดที่รวมทุกอย่างพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาหาร ของว่าง และเครื่องดื่มสารพัดชนิดที่มีให้บริการตั้งแต่คุณตื่นนอนยันหัวถึงหมอน ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ทั้งในร่มและกลางแจ้ง แถมด้วยโชว์สนุกๆ ยามค่ำคืนอีกต่างหาก แค่คิดเล่นๆ ว่านั่งจิบค็อกเทลหรือเบียร์ริมหาดตลอดทั้งวันก็คุ้มแล้ว

 

 

ที่นี่มีห้องพักให้เลือกเช็กอิน 3 ประเภท ได้แก่ Superior ห้องพักบนอาคารสองชั้น มีระเบียงส่วนตัวสำหรับนั่งชมวิวของสวนสวยและทะเล Beach Villa ห้องพักแบบวิลล่าที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีสัดส่วนของห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องน้ำแบบอินดอร์และเอาต์ดอร์ รวมทั้งบริเวณนอกชานให้คุณเอนตัวปล่อยใจบนเดย์เบดชมวิวสวยๆ ของชายหาดมัลดีฟส์ และ Lagoon Suite ห้องพักแบบวิลล่าที่เรียงตัวทอดยาวลงไปในลากูน นอกจากความเป็นส่วนตัวอย่างถึงที่สุดและวิวสวยไร้ที่ติของท้องทะเลอันไกลโพ้นแล้ว ยังมีบันไดจากวิลล่าทอดลงสู่ผืนทะเลเบื้องล่างได้ราวกับเป็นสระว่ายน้ำธรรมชาติส่วนตัว สำหรับคู่รักที่มาฮันนีมูนแนะนำว่าต้องห้องนี้เลย

 

 

ถึงคุณจะสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ในรีสอร์ตบนเกาะ แต่ถ้ามามัลดีฟส์แล้วไม่ได้ออกไปทริปดำน้ำคงเรียกว่ามาไม่ถึง (แม้ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม แต่ก็นับว่าคุ้มค่า) เผื่อเวลาสักครึ่งวันเช้าในการนั่งเรือออกไปที่ Blue Lagoon ดินแดนกลางท้องทะเลที่สวยสงบราวกับสรวงสวรรค์ ก่อนจะสวมอุปกรณ์ดำน้ำตื้น (snorkeling) และดื่มด่ำกับโลกใต้ท้องทะเลอันน่าตื่นตา พูดเลยว่า ‘ปลาเยอะมาก’ แถมผิวน้ำที่นิ่งแบบลากูนยังช่วยให้การดำน้ำง่ายขึ้นแม้คนที่อ่อนประสบการณ์ (อย่างฉัน) แนะนำให้พกกล้องสำหรับถ่ายใต้น้ำติดไปด้วย รับรองว่าได้ภาพประทับใจกลับมาเพียบ ถ้าคุณทำบุญมาเยอะ อาจมีฝูงโลมาแหวกว่ายมาอวดโฉมขนาบเรืออีกต่างหาก

 

 

ก่อนที่คนขับเรือชาวมัลดิเวียนจะพาเรากลับสู่รีสอร์ต ยังพาเราแวะไปเดินทอดน่องที่เกาะ Thulusdhoo ในเขตอะทอลมาเล่เหนือ (North Male Atoll) ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงและแหล่งอุตสาหกรรมผลิตปลาแห้ง ในวันที่เราไปเยือนอยู่ในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีพอดี กำแพงของบ้านเรือนบนเกาะจึงเคลือบด้วยสีสันฉูดฉาด (แต่ละสีถูกใช้เป็นตัวแทนของพรรคการเมือง) มีธงชาติมัลดีฟส์และธงประจำพรรคการเมืองผูกร้อยเป็นสายโบกสะบัดอยู่ด้านบน ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ แม้ผู้คนที่นี่จะยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่ชาวมัลดิเวียนบนเกาะนี้ทั้งหมดเป็นชาวมุสลิม สาวๆ ที่มาเที่ยวที่นี่จึงควรสวมเสื้อมีแขน หรือหาเสื้อคลุมเผื่อไว้ และไม่ควรนุ่งกางเกงขาสั้นจนเกินงาม คุณสามารถเดินลัดเลาะถ่ายรูปตามตรอกซอกซอยหรือโฉบเข้าไปในร้านรวงต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ขายของที่ระลึกจำพวกเปลือกหอย ไม้แกะสลัก และผ้าบาติกที่คนไทยอาจรู้สึกเฉยๆ แต่ถ้าอยากซื้อติดไม้ติดมือไปเป็นที่ระลึกก็ไม่เสียหาย สิ่งที่น่าตื่นตาสำหรับฉันมีอยู่สองอย่างคือหนึ่ง ช็อกโกแลตแท่งสไตล์มัลดีฟส์ ที่ทำจากเนื้อมะพร้าวผสมโกโก้ เราลองชิมแล้วสารภาพว่าไม่อร่อย แต่ใครมีโอกาสก็น่าลิ้มรสไว้เผื่อบอกต่อ และสองคือเครื่องดื่มโค้กที่ผลิตจากน้ำทะเลมัลดีฟส์ ซึ่งมีโรงงานผลิตอยู่บนเกาะแห่งนี้ รสชาติก็เหมือนโค้กทั่วไปนี่แหละ แต่บนฉลากเขียนไว้ชัดเจนว่าผลิตจากน้ำทะเลมัลดีฟส์ ฉันยังซื้อติดกระเป๋ากลับมาเป็นที่ระลึกสองขวด

 

 

เมื่อกลับขึ้นฝั่ง ถ้ารู้สึกเมื่อยล้าจากการดำน้ำก็สามารถไปนวดผ่อนคลายสไตล์บาหลีได้ที่ Club Med Spa by MANDARA หรือหากยังไม่หมดพลังก็สามารถกระโจนลงสระว่ายน้ำสวยที่อยู่ติดหาด จากนั้นก็เอนกายบนเดย์เบดใต้ต้นปาล์มริมหาดทรายขาว จิบค็อกเทลเย็นๆ และมีหนังสือน่าอ่านสักเล่มอยู่ในมือ นอนประวิงเวลาเรื่อยเปื่อยไปจนถึงช่วงดวงตะวันค่อยๆ ลับขอบฟ้า เราบอกคุณแล้วว่าเกาะสวรรค์แห่งนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำนอกจากตักตวงช่วงเวลาแห่งความสุขและจดจำภาพน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ใต้ฟ้าครามที่อยู่เบื้องหน้าเก็บไว้ในความทรงจำให้ได้มากที่สุด แม้โลกใบนี้ จะหมุนเร็วขึ้นมากแค่ไหน ท้ายที่สุดมนุษย์ตัวจิ๋วอย่างเราก็ยังต้องพึ่งพาความงดงามของธรรมชาติที่ไร้การปรุงแต่งในการชาร์จแบตเพิ่มพลังแห่งความสุขอยู่วันยังค่ำ
เรื่อง: ณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์

ภาพ: ณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์, club med

 

club med kani maldivesแพ็กเกจประกอบด้วย: ห้องพัก
ตั๋วเครื่องบินโดยสายการบิน Bangkok Airways
บริการเรือรับส่งสนามบิน-ที่พัก
บริการอาหารและเครื่องดื่มแบบ All-Inclusive
สำรองแพ็กเกจได้ที่โทร. 0-2253-0108
อีเมล sales.thailand@clubmed.com
www.clubmed.co.th
0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply