a pretty good day

คุณทำอะไรอยู่ตอนอายุ 15 เรียนอยู่ชั้นม.ปลาย ตกเย็นก็ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน พอกลางคืนก็นั่งเล่นเฟซบุ๊กหรือแคนดี้ครัชอย่างเอาเป็นเอาตายหรือเปล่า… แต่แพทริเซีย กู๊ด สาวน้อยที่เพิ่งผ่านเลข 16 มาหมาดๆ ได้เป็นนางเอกเต็มตัวในหลักไมล์แรกของชีวิตด้วยเพียง 15 ปีในละครเรื่อง แค้นเสน่หา ที่ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งนอกจาก ‘ผีอีเฟือง’ แล้ว ก็เห็นจะมีชื่อ ‘รุ้ง ปัณณธร’ หรือคุณหญิงวิมลโพยมนี่แหละที่ติดอยู่บนริมฝีปากของทุกคน

 

 

นางเอกป้ายแดงนั่งคุยกับเราอยู่ในรถบ้านเคลื่อนที่ซึ่งใช้เป็นโลเกชั่นถ่ายแฟชั่นในครั้งนี้ “หลังจากเรื่อง แค้นเสน่หา ก็มีคนจำหนูได้มากขึ้น ส่วนใหญ่ฟีดแบ็กดีเพราะคนดูสงสารรุ้ง” แพทเริ่มต้นบทสนทนาด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วน่ารักตามแบบฉบับของเธอ ถึงผลงานที่เพิ่งลาจอไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หากย้อนเวลากลับไปราวปีครึ่ง เด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury เกรด 9 ได้ชิมลางเล่นละครเรื่องแรก หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ในบทน้อยหน่า ลูกสาวของปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ซึ่งเธอยังจำวันที่ไปแคสติ้งได้ดี “ตอนแรกเขาให้หนูเริ่มแนะนำตัว ตอนนั้นก็ว่าตื่นเต้นแล้ว แต่พอพี่เขาให้ลองสวมบทนักข่าวที่พาผู้ชมไปท่องเที่ยวกับเรา ยิ่งตื่นเต้นเสียจนพูดมั่วไปหมด วันนั้นกลับบ้านไปด้วยอารมณ์ที่เซ็งมาก คิดว่าไม่ได้แน่ๆ แล้ว” แต่สุดท้ายเธอก็คว้าบทน้อยหน่ามาครองสำเร็จ ยิ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้กำกับ คิง-สมจริง ศรีสุภาพ ที่จัดการส่งแพทไปเรียนแอ็กติ้งตั้งแต่ก่อนเปิดกล้อง เรื่องการแสดงจึงไม่น่าห่วง แต่อุปสรรคในละครเรื่องแรกของสาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษคนนี้กลับเป็นเรื่องของภาษา “ตอนนั้นภาษาไทยหนูยังไม่ค่อยคล่อง อ่านบทลำบากมากเลยค่ะ แถมยังต้องลำบากคุณแม่คอยอ่านให้ฟัง คุณแม่เลยจ้างครูมาสอนภาษาไทยที่บ้าน จนตอนนี้อ่านคล่องแล้วค่ะ” ถึงกระนั้นในละครเรื่องที่สอง แค้นเสน่หา นอกจากความยากเรื่องภาษาที่ตามหลอกหลอน ละครเรื่องนั้นยังเป็นแนวพีเรียด ซึ่งถือว่าเป็นแนวยากชนิดปราบเซียนมานักต่อนัก จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอก้าวผ่านบทยากนี้มาได้อย่างไร “มันยากเพราะเป็นละครพีเรียด ใช้คำราชาศัพท์เยอะ แพทเลยต้องทำการบ้านหนักพอสมควร พยายามมีสมาธิตลอด พอว่างก็จะทบทวนบทเสมอเพื่อไม่ให้พลาดค่ะ” แต่การได้ร่วมงานกับผู้จัดรุ่นเดอะอย่างไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา และทีมนักแสดงรุ่นลายครามกลับกลายเป็นประสบการณ์ที่ดี “พี่ๆ ทุกคนช่วยแนะนำตลอดเลยค่ะ ไปๆ มาๆ เลยสนุกดี เพราะทุกคนในกองสนิทกันหมด และหนูได้ฝึกฝีมือไปด้วย” แพทเพิ่งจะเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ ลมซ่อนรัก ที่ประกบกับ ณเดชน์ คูกิมิยะ และแต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ ซึ่งน่าจะได้ลงจอฉายราวกลางปีหน้า

 

 

 

ย้อนไปในอดีต แพทเกิดและใช้ชีวิตวัยเด็กที่จังหวัดภูเก็ต กระทั่งย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ เมื่ออายุ 8 ขวบ เธอเติบโตมาแบบเด็กลูกครึ่งที่มีคุณพ่อเป็นชาวอังกฤษและคุณแม่เป็นชาวไทย “ตอนเด็กๆ แพทก็ซนตามประสาเพื่อนๆ ในแก๊งเด็กผู้หญิงสี่ห้าคน แต่ไม่ได้เล่นโลดโผนมาก” คุณแม่ที่พ่วงหน้าที่ดูแลน้องเล่าให้ฟัง “ที่บ้านก็ไม่ได้เลี้ยงดูแบบฝรั่ง จะเน้นเป็นไทยๆ เสียมากกว่า” ไม่แปลกใจที่สาวน้อยหน้าฝรั่งคนนี้จะมีสัมมาคารวะกับทุกคนในกองถ่าย แถมยังไหว้สวยอีกต่างหาก ถึงอย่างไรคุณแม่ก็กำชับแพทให้ความสำคัญกับการเรียนก่อน และที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยทำให้คุณแม่ผิดหวังด้วยการกวาดเกรดเอเกือบทุกวิชา ทุกวันนี้แพทจัดสรรเวลาส่วนหนึ่งให้กับการติวเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ขณะที่ไม่ลืมการแบ่งปันความสุขกับครอบครัว น้องชายหนึ่งคนชื่อแมทธิว และสุนัขอีกสองตัว

 

 

ความสดใสและพลังอันกระตือรือร้นแบบสาวแรกรุ่นของแพทริเซีย กู๊ด ทำให้บรรยากาศการถ่ายแฟชั่นในวันนี้เหมือนไม่ใช่วันทำงาน เธอยังพูดติดตลกว่า ‘เหมือนเป็นเด็กได้หนีแม่เที่ยวเลย’แพทไม่ใช่หญิงสาวที่โพสท่าสวยเฉียบเหมือนนางแบบมืออาชีพ แต่ดูสวยแบบเป็นธรรมชาติและขึ้นกล้องสุดๆ เมื่อมองผ่านเลนส์กล้อง สาวร่างสูง 170 เซนติเมตรผู้มีลักยิ้มข้างซ้ายคนนี้มีใบหน้าละม้ายคล้ายนักแสดงรุ่นพี่ ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บันด์ แน่นอนว่าเธอได้ยินประโยคนี้มาสักร้อยครั้งและยอมรับว่า “มีคนทักผิดอยู่บ่อยๆ ค่ะ แต่ถ้ามองดีๆ จะรู้ว่าเราไม่เหมือนกันนะคะ” เธอยิ้มแหยๆ และเปรยว่า “แต่หนูไม่ได้รู้สึกแย่เลยนะคะ เพราะหนูชื่นชมพี่ญาญ่าในฐานะไอดอลคนนึงของหนู แต่ยังไงหนูก็ต้องพยายามทำงานให้ดีขึ้น ไปอีกเพื่อให้คนรู้จักตัวตนจริงๆ ไม่อยากให้ใครคิดว่าเราเป็นคนอื่น” สาวดาวรุ่งคนนี้ยังปิดท้ายประเด็นว่า “มีคนทักว่าหนูเหมือนทั้งญาญ่า เทย่า ซาร่า วิกกี้ หรือเอ็มมา วัตสัน ก็ยังมี แต่ก็แอบดีใจว่าเราสวยขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายภาพแฟชั่นครบทุกชุด แพทดูสบายอยู่ในเสื้อยืดสีชมพูสกรีนลายหัวใจ และกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินที่เธอใส่มาเพื่อเตรียมตัวกลับ เป็นเรื่องบังเอิญที่วันนั้นตรงกับวันจัดงานแต่งงานของปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล พอดี เธอเอ่ยปากว่า “อยากไปร่วมงานแต่งพี่เขามาก เพราะไม่ได้เจอพี่ปีเตอร์นานแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะไปทันไหม” เมื่อพูดจบเธอก็ก้มหน้าก้มตาเช็กอินสตาแกรมบนหน้าจอโทรศัพท์หลังจากที่ไม่ได้จับมันมาหลายชั่วโมง “หนูเล่นแต่อินสตาแกรม ไม่มีเฟซบุ๊กของตัวเอง แปลกใช่ไหม” เราพยักหน้าตอบรับ เธอหัวเราะและบอกว่า “หนูก็ว่าอย่างนั้น” …แต่แพทก็วางใจได้ เพราะแฟนคลับทำแฟนเพจให้เธอ โดยที่ตอนนี้มียอดไลค์ทะลุหมื่นห้าเรียบร้อยแล้ว

 

 

เรื่อง: ณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์

 

 

 

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply