สายน้อยวัย 22 ปีเดินตามแพชชั่นของเธอ “อยากทำเทียนหอม” จนได้ขายบนห้าง

ชม คือชื่อของสาวคนนี้ กับยิ้มหวานตลอดเวลา ชมทำเทียนในแก้วใส มีคำเขียนว่า “Soy Candle” เตะตา เป็นเทียนหอมที่มีส่วนผสมของกากถั่วเหลือง และความเจ๋งอีกอย่างคือ เทียนอันนี้เอามานวดผิวได้ หอมไปทั้งห้อง และหอมไปทั้งตัว เรื่องของชมเริ่มมาจาก..

“เคยซื้อเทียนมาแก้วหนึ่ง แล้วอยากรู้ทันทีเลยว่าเทียนทำมาจากอะไร” แรงบันดาลใจของเธอง่ายๆ แค่นั้น เธอเลยเริ่มค้นคว้าเรื่องเทียนต่อ ก็เลยเกิดเป็นความอยากทำเทียนเป็นของตัวเอง ชมไปเจอว่า “เทียนที่เราเห็นในท้องตลาดก็จะมีเทียนที่ใช้พาราฟิน บีแว็กซ์ ซึ่งก็คือผึ้งทำรัง แล้วปากน้ำผึ้งออก มีไขมาเกาะ เอามาทำเทียนได้ และก็มีเทียนที่ทำมาจากถั่วเหลืองด้วย” ชมมาเจอว่าเทียนที่ทำจากพาราฟิน จะทำให้เกิดควันดำ และบีแว็กซ์จะทำให้เทียนบุ๋มลงไป เธอเลยไปค้นเพิ่มว่า ถ้าเอามาผสมกับถั่วเหลืองเพิ่มสิ เทียนถึงจะแข็ง และเรียบขึ้นได้ เธอเลยเลือกทำเทียนจากกากถั่วเหลือง สั่งมาจากอเมริกา แล้วเอาน้ำหอมเอสเซนเชียล ออยล์มาเติมกลิ่นเข้าไป เทียนของชมเลยเป็นธรรมชาติเพียวๆ และเอามานวดมือได้อีก

ความน่ารักอีกอย่างของเทียนของชมคือตัว H บนกล่อง เธอบอกว่า “เรารักบ้านมาก เลยคิดว่าเทียนเราไม่ว่าจะจุดที่ไหน ก็จะเหมือนอยู่บ้าน ก็เลยคิดทรงกล่องเป็นเหมือนบ้าน มีพู่ห้อยด้วย พู่ก็เหมือนผ้าม่าน เห็นแล้วจะอบอุ่นตาม” ลายเส้นบนกล่องก็จะเป็นลายเส้นรูปถั่วเหลือง เข้ากับที่มาของเทียนเธอ และกลิ่นเทียนจะมีสองกลุ่ม คือกลิ่นที่เป็นแนวน้ำหอม จะกลิ่น Sweet Envy, Peachy Mango กับกลิ่นแนวเอสเซนเชียล ออยล์ ก็จะมีกลิ่นมินท์ ตะไคร้ ส้ม ใบชา แต่กลิ่นที่โดนใจทุกคน จุดแล้วอวลไปทั้งห้อง จนต้องมีคนมาถามว่าจุดเทียนของอะไร ก็คือกลิ่น Sweet Envy แปลตรงตัวว่าความหอมที่น่าอิจฉานี่ล่ะ

ก่อนจะมาเป็นเทียน ไม้ขีดคือสิ่งที่เธอใส่ใจ

ชมบอกว่าก่อนทำเทียน “จะคิดเรื่องไม้ขีดก่อนเลยนะ” เพราะเธออยากได้ไม้เขียนแท่งยาวๆ ในกล่องยาวๆ ชมบอกว่าไฮโซดี แต่ความยากคือจะหาโรงงานทำไม้ขีดแบบนี้ในปริมาณที่เธอรับไหว แทบจะไม่มีใครทำให้ “ยากมากเพราะถ้าให้โรงงานทำ เราต้องสั่งถึง 10,000 กล่อง ซึ่งเกินงบมากๆ มาเจอโรงงานเดียวในไทยที่ทำได้คือ ไม้ขีดไฟตราพญานาค พอคุยกับเขาแล้วเขาบอกว่าขั้นต่ำ 1,000 กล่องได้ ดีใจมากๆ” อีกเหตุผลที่ไม้ขีดเธอต้องยาวก็คือ เวลาจุดแล้วไส้เทียนจะสั้นลงๆ จะได้จุดไม่ลวกมือ และแก้วก็จะไม่ดำด้วย

ความมหัศจรรย์ในชม และแพชชั่นของเธอที่เราว่าเธอเจ๋งเลยก็คือ

ชมเพิ่งขายเทียนของเธอเมื่อปี 2560 ภายใน 1 ปี เธอขายไปได้ 2,000 อัน ขึ้นห้างครั้งแรกที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่ และสยามดิสคัฟเวอร์รี่เป็นคนมาเจอเทียนของเธอ ติดต่อให้เธอเอาไปวางขาย “วางไปได้ 30 อันล็อตแรก ก็มีคนโทร.มาบอกว่า มีคนจีนมาเหมาไปหมดนะ ช่วยเอาของมาเติมด้วย” เธอทำสำเร็จตั้งแต่วันแรกที่ขาย!! หลังจากนั้นเธอก็ไปขายต่อที่สยามพารากอน และที่ร้านใบเมี่ยงอีก 5 สาขา

ชมคิดจะทำเทียนขาย เธอทำคนเดียวทุกขั้นตอน และใช้ความชอบของตัวเองเลือกทุกสิ่งมาทำ เธอลงทุนไม่ได้มากอะไร แต่วันนี้ชมถอยรถเบนซ์ให้ตัวเองได้แล้ว เธอยังเดินตามแพชชั่นต่อไป เทียนในฝันที่เธออยากทำคือ “อยากทำบทสวนมนตร์ที่พิมพ์ไปบนแก้วเทียนได้เลย เวลาไหว้พระจะได้ไม่ต้องกางบทสวดมนตร์” คูลจัดจนเราคิดว่า ไม่น่ามีใครคิดแบบเธอ